Don’t break the chain อย่าทำให้โซ่นั้นขาดไป
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับวิธิการหรือแนวทางหนึ่ง ในการที่จะฝึกฝนหรือทำอะไรให้อะไรบางอย่างนั้นกลายเป็นนิสัยประจำตัวเรา.. ซึ่งนี่เป็นหนึ่งใน Monthly Policy ที่ Pronto Tools ทุกคนทำร่วมกันอยู่ : )
“Don’t break the chain”
- ทุกอย่างเริ่มจากที่ Office ที่ผมทำงานอยู่ Pronto Tools นั้น ในแต่ละเดือนจะมีการเลือก Leader ขึ้นมาเป็นผู้นำทำกิจกรรมอะไรบางอย่างที่ทำร่วมกันทั้งออฟฟิส
- ซึ่ง Leader ก้จะต้องตั้ง Policy ร่วมกันขึ้นมา ยกตัวอย่าง.. เมื่อเดือนก่อน Leader ได้ตั้ง Policy ว่า ทุกคนจะต้องทำอะไรบางอย่างที่ Out of comfort zone ของตัวเอง, ทำแล้วมาแปะ Post-it ที่ชื่อตัวเอง แล้ววันสุดท้ายของอาทิตย์มานับดูกันว่าใครทำได้มากที่สุด Leader ก็จะมีรางวัลให้ เป็นต้น
- พอเดือนนี้ Leader ของเราคือ พี่ Kan Ouivirach และพี่แพน Antira Loachote (และมีพี่มิว fattyburas ผู้เป็น Secret Leader ที่ช่วยเหลือทั้งสองท่านอยู่เงียบๆ~) ซึ่งกลุ่ม Leader เองได้ออก Policy มาหลายข้อ หนึ่งในนั้นที่จะมาแชร์ให้อ่านกัน ก็คือ “Don’t break the chain” นั่นเอง
- โดยทุกคนจะต้องเขียนสิ่งที่ตัวเองอยากทำ 1 อย่าง แล้วทำต่อเนื่องกันให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าวันไหนลืมทำ หรือไม่ได้ทำ ต้องเริ่มนับใหม่
- นั่นแหละครับ “อย่าทำให้โซ่นั้นขาดไปนะ”
What is “Don’t break the chain” ?
- จริง ๆ แล้วมันเป็นหนึ่งในวิธีการ / แนวทางปฏิบัติหนึ่งตามหนังสือ How to ที่จะสอนให้เราพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าจะให้อินกับมัน เราต้องมาดูกันจริง ๆ ก่อนว่าจุดเริ่มต้นของ “Don’t break the chain” นั้น จริง ๆ มันเริ่มขึ้นมาจากไหน อย่างไร
- จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้น เมื่อ Jerry Seienfield นักแสดงตลกอเมริกันชื่อดังในสมัยก่อน (สมัยนี้แกก็ยังคงดัง) เคยมีปฏิทินแปะไว้บนพนังที่บ้านแก และทุกวันที่แกซ้อมพูดตลก แกก็จะมากากบาทวันนั้น ๆ ในปฏิทินของแก
- ซึ่งพอหลังจากแกซ้อมไปได้ซักพักหนึ่ง กากบาทในปฏิทินเหล่านั้นจะดูเชื่อม ๆ กันเหมือน XXXXXXX ละมายคล้ายโซ่นั่นเอง
- ซึ่งจุดมุ่งหมายของแกนั่นคือ อย่าปล่อยให้โซ่นั้นขาดไป หรือ “Don’t break the chain” นั่นเอง ทำให้เขาต้องซ้อมทุกวัน ๆ เพื่อจะได้กากบาทได้ทุกช่องปฏิทิน
- สำหรับอีกเรื่องหนึ่งนี้จะเป็นเรื่องที่ผมเองไปฟังมาจาก Podcast มา .. ซึ่งเกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาข้างบนนี้แหละ
- เรื่องเล่านี้มีอยู่ว่า ในโลกนี้จะมีนักเรียนอยู่ 2 ประเภท .. ประเภทแรก คือ นักเรียนที่ค่อย ๆ อ่านหนังสือสอบ ใช้เวลาไม่นานในการอ่านแต่ละวัน อาจจะวันละ 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 15 วัน… อีกประเภท คือ นักเรียนที่อ่านหนังสือก่อนสอบหนึ่งวัน ใช้เวลา 15 ชั่วโมง หรืออย่างที่ชอบพูดกันว่า One night miracle.
- แน่นอนถ้าสมมุติว่าคนสองประเภทนี้ มีความรู้และประสบการณ์เท่ากันในตอนแรก เรามักจะเดาออกกันได้อยู่แล้วว่าใครจะได้คะแนนมากกว่ากัน
- และสิ่งที่นักเรียนประเภทแรกได้มานั้น มันไม่ใช่แค่ความรู้ แต่มันจะเป็นการเข้าใจมากขึ้น เราไม่ได้แค่อ่านหนังสือแล้วผ่านไป เพราทุกวันที่เราอ่านล่วงหน้า เวลาเรียนเราก็ได้ทบทวนไปด้วย เราได้ feedback เมื่อวานเสมอว่าเราทำได้ดีหรือควรปรับตัวอะไรอย่างไร
How “Don’t break the chain” ?
จริง ๆ แล้วมันมีกฏ Simple ๆ อยู่แค่ 3 ข้อสำหรับคนที่ยาวไปไม่อ่าน.. ข้ามมาตรงนี้เลยก็ได้
- Pick a goal. ตั้งเป้าหมายไว้
- Mark off the days on which you work toward that goal. ทำเครื่องหมายให้วันที่คุณทำงานเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น
- Use your chain of marked off days as a motivator. ให้โซ่จากเครื่องหมายที่คุณทำไว้เป็นแรงจูงใจให้กับคุณต่อไป
ผมว่ามันเป็นกฏง่าย ๆ แต่สิ่งที่สำคัญคงเป็นวินัยกับใจที่เราสู้รึเปล่ามากกว่า :)
กฏทั้งสามข้อเป็นกฏที่มาจากเว็บไซต์ของ Don’t break the chain เองเลย สามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่นะ http://dontbreakthechain.com/what
หลายคนไม่คุ้นกับ Dont break the chain แต่คุ้นกับทฤษฎี 21 วัน
- ใช่ครับ.. ผมเองก็พึ่งได้ยิน Dont break the chain ครั้งแรกเช่นกัน, แต่ก่อนหน้านั้นที่ผมรู้จักคงเป็น “ทฤษฏี 21” วัน ที่ว่าทำอะไรครบ 21 วันอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราทำเรื่องนั้นได้ชิล ๆ เป็นนิสัย
- ซึ่งคนที่เป็นต้นฉบับของทฤษฎีนิสัยใน 21 วัน หรือ “21-Day Habit Theory” นี้ คือ Dr. Maxwell Maltz ซึ่งเขียนลงในหนังสือขายดีชื่อ Psycho-Cybernetics
- ทฤษฏีนี้บอกว่า เรื่องที่การกระทำจะกลายเป็น “นิสัย” ได้ต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 21 วัน
- ซึ่งหัวใจหลักของทฤษฏี คือ เราต้องเชื่อว่าเราทำได้ และทำมันอย่างต่อเนื่องและจริงจังทุกวันตลอด 21 วัน แค่นี้เลย เราก็จะได้นิสัยนั้น ๆ มาเป็นของเรา
สำหรับผมแล้วจุดมุ่งหมายของสอง Appoach นี้นั้นเหมือนกัน คือการสร้างนิสัยให้กับเรานั่นเอง เพียงแค่คนคิดขึ้นมานั้น คนละคนกัน
Conclusion
สุดท้ายแล้วที่มาเล่าให้ฟังนั้นก็เพราะว่า ตัวผมเองก็ตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างและตั้งเป้าว่าจะ Don’t break the chain ให้ได้พร้อมกับทุกคนใน Office
หลายคนก็จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างบางคนที่น่าสนใจ เช่น จะดูการ์ตูนภาษาอังกฤษแบบไม่มี Subtitle วันละ 30 นาที, วิดพื้น 100 ครั้งต่อวัน, ของพี่เก๋ Manager ของ Pronto Tools ที่จะทำ Facebook live: Coaching ในมุมมองของการบริการจัดการและการใช้ชีวิต, ของพี่แมน Pythonista ที่ Pronto Tools เจ้าของแฟนเพจ “เขียนงูให้วัวกลัว” ที่ตั้งใจจะแชร์ Python Trick ทุก ๆ วัน เป็นต้น
ส่วนตัวของผมเอง ผมตั้งใจจะเขียน Blog และแชร์วันละหนึ่งบทความ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนเนื้อหาที่ตั้งใจจะเขียนคิดไว้แล้วว่าจะเป็นทั้งเรื่อง Technical ที่ได้บ้าง, เรื่องทั่วไปใช้ชีวิต, หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มา
สำหรับใครคนไหน กลุ่มอะไร หรือองค์กรไหนที่สนใจอยากมาร่วม Challenge กับเราก็ทักผมมาได้นะครับ : ) แล้วมา Don’t break the chain ไปด้วยกันครับผม.. เจอกันใหม่พรุ่งนี้ครับ
Don’t waste another moment — start building your chain today!