Don’t break the chain อย่าทำให้โซ่นั้นขาดไป

First Kanisorn Sutham
3 min readJul 25, 2018

--

วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับวิธิการหรือแนวทางหนึ่ง ในการที่จะฝึกฝนหรือทำอะไรให้อะไรบางอย่างนั้นกลายเป็นนิสัยประจำตัวเรา.. ซึ่งนี่เป็นหนึ่งใน Monthly Policy ที่ Pronto Tools ทุกคนทำร่วมกันอยู่ : )

“Don’t break the chain“ BOARD at Pronto Tools

“Don’t break the chain”

  • ทุกอย่างเริ่มจากที่ Office ที่ผมทำงานอยู่ Pronto Tools นั้น ในแต่ละเดือนจะมีการเลือก Leader ขึ้นมาเป็นผู้นำทำกิจกรรมอะไรบางอย่างที่ทำร่วมกันทั้งออฟฟิส
  • ซึ่ง Leader ก้จะต้องตั้ง Policy ร่วมกันขึ้นมา ยกตัวอย่าง.. เมื่อเดือนก่อน Leader ได้ตั้ง Policy ว่า ทุกคนจะต้องทำอะไรบางอย่างที่ Out of comfort zone ของตัวเอง, ทำแล้วมาแปะ Post-it ที่ชื่อตัวเอง แล้ววันสุดท้ายของอาทิตย์มานับดูกันว่าใครทำได้มากที่สุด Leader ก็จะมีรางวัลให้ เป็นต้น
  • พอเดือนนี้ Leader ของเราคือ พี่ Kan Ouivirach และพี่แพน Antira Loachote (และมีพี่มิว fattyburas ผู้เป็น Secret Leader ที่ช่วยเหลือทั้งสองท่านอยู่เงียบๆ~) ซึ่งกลุ่ม Leader เองได้ออก Policy มาหลายข้อ หนึ่งในนั้นที่จะมาแชร์ให้อ่านกัน ก็คือ “Don’t break the chain” นั่นเอง
  • โดยทุกคนจะต้องเขียนสิ่งที่ตัวเองอยากทำ 1 อย่าง แล้วทำต่อเนื่องกันให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าวันไหนลืมทำ หรือไม่ได้ทำ ต้องเริ่มนับใหม่
  • นั่นแหละครับ “อย่าทำให้โซ่นั้นขาดไปนะ”

What is “Don’t break the chain” ?

  • จริง ๆ แล้วมันเป็นหนึ่งในวิธีการ / แนวทางปฏิบัติหนึ่งตามหนังสือ How to ที่จะสอนให้เราพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าจะให้อินกับมัน เราต้องมาดูกันจริง ๆ ก่อนว่าจุดเริ่มต้นของ “Don’t break the chain” นั้น จริง ๆ มันเริ่มขึ้นมาจากไหน อย่างไร
  • จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้น เมื่อ Jerry Seienfield นักแสดงตลกอเมริกันชื่อดังในสมัยก่อน (สมัยนี้แกก็ยังคงดัง) เคยมีปฏิทินแปะไว้บนพนังที่บ้านแก และทุกวันที่แกซ้อมพูดตลก แกก็จะมากากบาทวันนั้น ๆ ในปฏิทินของแก
  • ซึ่งพอหลังจากแกซ้อมไปได้ซักพักหนึ่ง กากบาทในปฏิทินเหล่านั้นจะดูเชื่อม ๆ กันเหมือน XXXXXXX ละมายคล้ายโซ่นั่นเอง
  • ซึ่งจุดมุ่งหมายของแกนั่นคือ อย่าปล่อยให้โซ่นั้นขาดไป หรือ “Don’t break the chain” นั่นเอง ทำให้เขาต้องซ้อมทุกวัน ๆ เพื่อจะได้กากบาทได้ทุกช่องปฏิทิน
  • สำหรับอีกเรื่องหนึ่งนี้จะเป็นเรื่องที่ผมเองไปฟังมาจาก Podcast มา .. ซึ่งเกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาข้างบนนี้แหละ
  • เรื่องเล่านี้มีอยู่ว่า ในโลกนี้จะมีนักเรียนอยู่ 2 ประเภท .. ประเภทแรก คือ นักเรียนที่ค่อย ๆ อ่านหนังสือสอบ ใช้เวลาไม่นานในการอ่านแต่ละวัน อาจจะวันละ 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 15 วัน… อีกประเภท คือ นักเรียนที่อ่านหนังสือก่อนสอบหนึ่งวัน ใช้เวลา 15 ชั่วโมง หรืออย่างที่ชอบพูดกันว่า One night miracle.
  • แน่นอนถ้าสมมุติว่าคนสองประเภทนี้ มีความรู้และประสบการณ์เท่ากันในตอนแรก เรามักจะเดาออกกันได้อยู่แล้วว่าใครจะได้คะแนนมากกว่ากัน
  • และสิ่งที่นักเรียนประเภทแรกได้มานั้น มันไม่ใช่แค่ความรู้ แต่มันจะเป็นการเข้าใจมากขึ้น เราไม่ได้แค่อ่านหนังสือแล้วผ่านไป เพราทุกวันที่เราอ่านล่วงหน้า เวลาเรียนเราก็ได้ทบทวนไปด้วย เราได้ feedback เมื่อวานเสมอว่าเราทำได้ดีหรือควรปรับตัวอะไรอย่างไร

How “Don’t break the chain” ?

จริง ๆ แล้วมันมีกฏ Simple ๆ อยู่แค่ 3 ข้อสำหรับคนที่ยาวไปไม่อ่าน.. ข้ามมาตรงนี้เลยก็ได้

  1. Pick a goal. ตั้งเป้าหมายไว้
  2. Mark off the days on which you work toward that goal. ทำเครื่องหมายให้วันที่คุณทำงานเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น
  3. Use your chain of marked off days as a motivator. ให้โซ่จากเครื่องหมายที่คุณทำไว้เป็นแรงจูงใจให้กับคุณต่อไป

ผมว่ามันเป็นกฏง่าย ๆ แต่สิ่งที่สำคัญคงเป็นวินัยกับใจที่เราสู้รึเปล่ามากกว่า :)

กฏทั้งสามข้อเป็นกฏที่มาจากเว็บไซต์ของ Don’t break the chain เองเลย สามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่นะ http://dontbreakthechain.com/what

หลายคนไม่คุ้นกับ Dont break the chain แต่คุ้นกับทฤษฎี 21 วัน

  • ใช่ครับ.. ผมเองก็พึ่งได้ยิน Dont break the chain ครั้งแรกเช่นกัน, แต่ก่อนหน้านั้นที่ผมรู้จักคงเป็น “ทฤษฏี 21” วัน ที่ว่าทำอะไรครบ 21 วันอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราทำเรื่องนั้นได้ชิล ๆ เป็นนิสัย
  • ซึ่งคนที่เป็นต้นฉบับของทฤษฎีนิสัยใน 21 วัน หรือ “21-Day Habit Theory” นี้ คือ Dr. Maxwell Maltz ซึ่งเขียนลงในหนังสือขายดีชื่อ Psycho-Cybernetics
  • ทฤษฏีนี้บอกว่า เรื่องที่การกระทำจะกลายเป็น “นิสัย” ได้ต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 21 วัน
  • ซึ่งหัวใจหลักของทฤษฏี คือ เราต้องเชื่อว่าเราทำได้ และทำมันอย่างต่อเนื่องและจริงจังทุกวันตลอด 21 วัน แค่นี้เลย เราก็จะได้นิสัยนั้น ๆ มาเป็นของเรา

สำหรับผมแล้วจุดมุ่งหมายของสอง Appoach นี้นั้นเหมือนกัน คือการสร้างนิสัยให้กับเรานั่นเอง เพียงแค่คนคิดขึ้นมานั้น คนละคนกัน

https://www.azquotes.com/quote/592752 — Maxwell Maltz @ AZ Quotes

Conclusion

สุดท้ายแล้วที่มาเล่าให้ฟังนั้นก็เพราะว่า ตัวผมเองก็ตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างและตั้งเป้าว่าจะ Don’t break the chain ให้ได้พร้อมกับทุกคนใน Office

หลายคนก็จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างบางคนที่น่าสนใจ เช่น จะดูการ์ตูนภาษาอังกฤษแบบไม่มี Subtitle วันละ 30 นาที, วิดพื้น 100 ครั้งต่อวัน, ของพี่เก๋ Manager ของ​ Pronto Tools ที่จะทำ Facebook live: Coaching ในมุมมองของการบริการจัดการและการใช้ชีวิต, ของพี่แมน Pythonista ที่ Pronto Tools เจ้าของแฟนเพจ “เขียนงูให้วัวกลัว” ที่ตั้งใจจะแชร์ Python Trick ทุก ๆ วัน เป็นต้น

ส่วนตัวของผมเอง ผมตั้งใจจะเขียน Blog และแชร์วันละหนึ่งบทความ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนเนื้อหาที่ตั้งใจจะเขียนคิดไว้แล้วว่าจะเป็นทั้งเรื่อง Technical ที่ได้บ้าง, เรื่องทั่วไปใช้ชีวิต, หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มา

สำหรับใครคนไหน กลุ่มอะไร หรือองค์กรไหนที่สนใจอยากมาร่วม Challenge กับเราก็ทักผมมาได้นะครับ : ) แล้วมา Don’t break the chain ไปด้วยกันครับผม.. เจอกันใหม่พรุ่งนี้ครับ

Don’t waste another moment — start building your chain today!

พี่แยม & พี่เก๋ Manager— Live @ Pronto Tools

--

--

First Kanisorn Sutham
First Kanisorn Sutham

Written by First Kanisorn Sutham

Just a little software developer : ) thank you for follow me : )

No responses yet